
องุ่น ( Vitis vinifera ) ได้รับการยกย่องว่ามีคุณค่าทางยาและคุณค่าทางโภชนาการมาเป็นเวลานับพันปี ชาวอียิปต์รับประทานองุ่นเมื่ออย่างน้อย 6,000 ปีก่อน และนักปรัชญาชาวกรีกโบราณหลายคนยกย่องถึงพลังการรักษาขององุ่น ซึ่งโดยปกติจะอยู่ในรูปของไวน์ หมอพื้นบ้านชาวยุโรปทำขี้ผึ้งจากน้ำเลี้ยงขององุ่นเพื่อรักษาโรคผิวหนังและตา ใบองุ่นใช้ห้ามเลือด อักเสบ และเจ็บปวด เช่น โรคริดสีดวงทวาร องุ่นดิบใช้รักษาอาการเจ็บคอ และองุ่นแห้ง (ลูกเกด) ใช้รักษาอาการท้องผูกและกระหายน้ำ องุ่นสุกที่กลมและหวานใช้รักษาปัญหาสุขภาพต่างๆ เช่น มะเร็ง อหิวาตกโรค ไข้ทรพิษ อาการคลื่นไส้ การติดเชื้อที่ตา โรคผิวหนัง ไต และตับ
องุ่นหรือสารเคมีในองุ่น โดยเฉพาะสารประกอบโอลิโกเมอริกโปรแอนโธไซยานิดิน (OPCs) ได้รับการยกย่องว่าเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่มีประสิทธิภาพ บางคนเชื่อว่าองุ่นสามารถช่วยรักษาโรคต่างๆ ได้หลายอย่าง ตั้งแต่โรคหัวใจ มะเร็ง ไปจนถึงผิวหนังที่เสื่อมสภาพ แม้ว่าหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ส่วนใหญ่เกี่ยวกับโรคเหล่านี้ยังขาดอยู่ก็ตาม อย่างไรก็ตาม มีหลักฐานที่ดีว่าสารสกัดจากเมล็ดองุ่นสามารถช่วยรักษาภาวะหลอดเลือดดำทำงานไม่เพียงพอเรื้อรังและอาการบวมน้ำได้
การศึกษากับอาสาสมัครที่มีสุขภาพดีพบว่าการรับประทานสารสกัดจากเมล็ดองุ่นช่วยเพิ่มระดับสารต้านอนุมูลอิสระในเลือดได้อย่างมาก สารต้านอนุมูลอิสระคือสารที่ทำลายอนุมูลอิสระ ซึ่งเป็นสารประกอบที่เป็นอันตรายในร่างกายที่ทำลาย DNA (สารพันธุกรรม) และอาจทำให้เซลล์ตายได้ นักวิทยาศาสตร์เชื่อว่าอนุมูลอิสระมีส่วนทำให้เกิดการแก่ก่อนวัย และยังก่อให้เกิดปัญหาสุขภาพมากมาย เช่น โรคหัวใจและโรคมะเร็ง